ในปัจจุบันทั่วโลกต่างมองหาสารทำความเย็นใหม่ ที่ไม่เพียงแต่ไม่ทำลายชั้นโอโซน และยังไม่ส่งผลต่อภาวะโลกร้อนให้น้อยที่สุด
ใน อดีต สารทำความเย็นที่มีสาร CFC เป็นส่วนประกอบถูกใช้ในเครื่องปรับอากาศอย่างแพร่หลายแต่ด้วยข้อตกลงในพิธี สารมอนทรีออลกำหนดให้สาร CFC เป็นสารอันตรายที่ทำลายชั้นโอโซนและเรียกร้องให้มีการเลิกใช้สารทำความเย็น นี้ สาร HCFC (R22) จึงเป็นทางเลือกทดแทนสำหรับสารดังกล่าว อย่างไรก็ดีสาร HCFC ก็ถูกระบุให้อยู่ในรายชื่อสารอันตรายที่ถูกระงับให้มีการเลิกใช้ในเวลาต่อมา เพราะสารนี้ก็มีส่วนในการทำลายชั้นโอโซนเช่นกัน ดังนั้นจึงมีการเรียกร้องให้เลิกใช้สารทำความเย็น R22 ที่มีส่วนประกอบของ HCFC ในปี 2020 สำหรับประเทศอุตสาหกรรม และปี 2030 สำหรับประเทศกำลังพัฒนา
ขณะนี้ประเทศอุตสาหกรรมกำลังกำลังดำเนินการเปลี่ยนจากการใช้สารทำความเย็น HCFC (R22) เป็น HFC (R410A) ที่แม้ว่าจะไม่ทำลายชั้นโอโซน แต่ก็มีส่วนทำให้เกิดภาวะโลกร้อน แต่อย่างไรก็ดี ข้อตกลงในพิธีสารโตเกียว ในปี 1997 ก็มีการเรียกร้องให้ลดการปลอยสาร HFC ของสารทำความเย็น R410A
ในประเทศญี่ปุ่น ไดกิ้นได้เปลี่ยนมาใช้สารทำความเย็น R32 ในเครื่องปรับอากาศสำหรับที่อยู่อาศัยและผู้ผลิตเครื่องปรับอากาศรายอื่นๆ ก็เริ่มที่จะเปลี่ยนมาใช้เช่นกัน
สำหรับประเทศในภูมิภาคเอเชีย-โอเชียเนียได้มีการวางแผนลดการใช้สาร HCFC การตามประกาศจาก United Nations Environment Program (UNEP) ด้วยการวางแผน HCFC Phase out Management Program (HPMP) เพื่อเสนอต่อ UNEP ต่อไป
ในส่วนประเทศไทยนั้น กองทุนพหุภาคี (MLF) ได้อนุมัติให้ใช้สารทำความเย็น R32 สำหรับธุรกิจระบบปรับอากาศและยังวางแผนให้ระงับการใช้สารทำความเย็น (HCFC) R22 ภายในปี 2017
เครดิต : www.daikin.co.th
หน้าที่เข้าชม | 76,333 ครั้ง |
ผู้ชมทั้งหมด | 43,674 ครั้ง |
เปิดร้าน | 10 ก.ย. 2555 |
ร้านค้าอัพเดท | 8 ก.ย. 2568 |